|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
จะมาใช้บริการรับคำปรึกษาดีหรือไม่? |
TOP |
|
จะด้วยความไม่คุ้นเคยหรืออาจจะเป็นเพราะวัฒนธรรมของคนไทยเราก็ดี
การให้คำปรึกษาดูเหมือนจะไม่เป็นที่นิยมกันมากนัก
อาจเป็นเพราะมีหลายสิ่งหลายอย่างที่เป็นข้อกังขาสำหรับ
ตัวคุณและคนอีกหลายๆ คนอยู่ว่าจะตัดสินใจมาใช้บริการนี้ดีหรือไม่..
การมาใช้บริการในการ ปรึกษาเป็นการพูดคุยที่จะหาต้นตอ
สาเหตุ และการแก้ไข |
|
|
|
จำเป็นแค่ไหน
ถึงจะมาใช้บริการให้คำปรึกษาได้? |
TOP |
|
โดยทั่วไปแล้วคนเราจะแสวงหาการให้คำปรึกษาหรือถูกส่งมาให้เข้ารับการให้คำปรึกษา
ด้วยเหตุผลหลายอย่างด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็น
ความเจ็บปวดในอดีต,อาการซึมเศร้า,การตัดสินใจในเรื่องต่างๆ
, การพัฒนาทักษะทางสังคม, การจัดการกับความโกรธ,
วิกฤติในชีวิต, การเลิกเหล้า การจัดการกับความเครียด,
ขอคำแนะนำการเลี้ยงบุตร ฯลฯ |
|
|
|
ถ้าจะมาใช้บริการต้องทำอย่างไรบ้าง? |
TOP |
|
ก่อนการมาใช้บริการให้คำปรึกษา
คุณต้องมีเป้าหมายว่าสิ่งที่คาดหวังคืออะไร
คุณจะต้องบอกข้อมูลส่วนตัวที่เป็นจริง
เพื่อประโยชน์ในการแก้ไขปัญหาต่างๆ ได้อย่างดี
คุณสามารถเข้าไปดูใน รายละเอียดการให้คำปรึกษารายบุคคล |
|
|
|
ทำไมต้องมาปรึกษาเรื่องของฉันกับใครก็ไม่รู้? |
TOP |
|
โดยปกติ คนเรามักปรึกษาเรื่องราวต่างๆ
กับคนใกล้ชิด คนในครอบครัวหรือเพื่อน
ซึ่งเป็นการ ให้คำปรึกษาที่ผู้ไปปรึกษาจะรู้สึกปลอดภัย
และไว้วางใจที่จะเปิดเผยเรื่องราวต่างๆ
มากกว่า อย่างไรก็ตาม การให้คำปรึกษากับผู้ให้คำปรึกษานักวิชาชีพ
ย่อมมีข้อดีที่ได้เปรียบมากกว่า การให้คำปรึกษาตามปกติธรรมดา
เพราะจะสามารถวิเคราะห์ถึงปัญหาได้และหาทางออกได้
เป็นขั้นเป็นตอน และแนะนำวิธีการแก้ปัญหา
เพื่อคุณเองสามารถแก้ไขต่างๆ ได้ด้วยตนเอง |
|
|
|
ฉันเป็นบ้าหรือเปล่า
ถึงต้องมาใช้บริการ? |
TOP |
|
คุณอาจจะเคยได้ยินบางคนกล่าวอยู่เสมอว่า
ผู้ที่มาใช้บริการให้คำปรึกษานั้นเป็นคนบ้าหรือ
คนโรคจิต หรืออาจจะเคยได้ยินคำเตือนว่า
ระวังจะกลายเป็นบ้าหากไปใช้บริการให้คำปรึกษา
คำถามในทำนองนี้มักจะทำให้คนเราไม่กล้าที่จะไปรับคำปรึกษา
คุณอาจจะลองเปิดมุมมอง ใหม่และรับข้อมูลใหม่ๆ
จากเราเพื่อจะได้เห็นภาพและประโยชน์จากการให้คำปรึกษา
เป็นเรื่องจริงที่ผู้คนจำนวนหนึ่งจำต้องมารับบริการให้คำปรึกษาหรือทำจิตบำบัดเนื่องจากมี
ความผิดปกติทางจิตใจหรือมีพยาธิสภาพทางจิต
ซึ่งคนทั่วไปมักจะใช้ภาษาพูดว่า "เป็นบ้า"
แต่ศาสตร์การให้คำปรึกษานั้นไม่ได้มีประโยชน์จำกัดเฉพาะกับผู้ที่มีความผิดปกติทางจิต
แต่ยัง เป็นศาสตร์ที่สามารถช่วยเหลือผู้คนที่ไม่ได้มีความผิดปกติทางจิต
เสริมสร้างให้มีคุณภาพชีวิต และสุขภาพจิตที่ดีขึ้นได้อีกด้วย
อย่างเช่น การให้คำปรึกษาเพื่อหาทางช่วยเหลือและจัดการกับ
ความเครียดจากการทำงาน "ความเครียด"
นั้นเป็นสิ่งที่สามารถเกิดขึ้นได้กับคนทุกคน
ไม่ใช่อาการบ้าหรือความผิดปกติแต่อย่างใด
ยิ่งเป็นความเครียดจากการทำงานก็ถือว่าเป็นเรื่องทั่วไป
ที่เกิดขึ้นในชีวิตการทำงาน ซึ่งบางคนมีวิธีการผ่อนคลายและรับมือกับความเครียดได้ดี
ในขณะที่คนอีกส่วนหนึ่งสามารถรับมือกับความเครียดอย่างยากลำบาก
หรือกำลังเผชิญหน้ากับวิกฤติใน ชีวิตซึ่งกรณีนี้การให้คำปรึกษาสามารถช่วยเหลือให้คนทำงานเหล่านี้มีทักษะในการรับมือ
|
|
|
|
นี่ฉันอับจนหนทางถึงต้องมาใช้บริการแล้วหรือ? |
TOP |
|
คนเราเมื่อมีปัญหาเกิดขึ้น มักมีปฏิกิริยาตอบสนองต่อการขอความช่วยเหลือ
และมาใช้บริการให้คำปรึกษาไม่เหมือนกัน
บางคนมักคิดว่า "ปัญหาแค่นี้ ทำไมถึงหาทางออกเองไม่ได้
หากไปขอความช่วยเหลือจากผู้อื่นก็ยิ่งจะกลายเป็นคนอ่อนแอ
พึ่งตัวเองไม่ได้ สู้จัดการแก้ไขปัญหาด้วยตัวเองต่อไปดีกว่าเพราะเราเองก็ไม่ได้อับจนหนทางขนาดนั้นสักหน่อย"
บางคนก็คิดว่า "ฉันมีปัญหาแต่ฉันไม่ได้เป็นคนก่อ
ทำไมต้องไปรับคำปรึกษา ตัวต้นเหตุของปัญหาต่างหากที่
ต้องเป็นคนไปรับคำปรึกษา.."
หากคุณเป็นใครคนใดคนหนึ่งที่คิดกับตนเองในลักษณะนี้
ก็อย่าพึ่งหลีกหนีหรือปฏิเสธทางเลือกในการมาใช้บริการให้คำปรึกษา
แน่นอนว่าเป็นสิทธิของตัวคุณว่าจะมาใช้บริการให้คำปรึกษา
หรือไม่ แต่ถ้าหากคุณกลัวว่าการมาใช้บริการ
จะเป็นการแสดงออกให้เห็นถึงความอ่อนแอและไม่สามารถพึ่งพาตนเองได้
ประสบการณ์ของคนหลายคนก็ สามารถชี้ให้เห็นได้ว่าไม่เป็น
เช่นนั้นผู้ให้คำปรึกษาพบว่าตัวผู้มาใช้บริการเองมีความเข้มแข็ง
และสามารถพึ่งตนเองได้อยู่ในตัวเสมอ และการที่ตัวผู้มาใช้บริการเอง
พยายามแสวงหาวิธีการแก้ไขปัญหาด้วยตนเองก็เป็นแนวโน้มที่ดีต่อการให้คำปรึกษา
รวมถึงเป็นสิทธิของเขาเองด้วยที่จะพยายามแก้ปัญหาด้วยตนเองก่อน
เพียงแต่มนุษย์มักมีข้อจำกัดในตัวเองอยู่ในบางด้านของชีวิต
ซึ่งมักจะเป็นด้านที่มนุษย์ผู้นั้นขาดความรู้และประสบการณ์
ที่จะจัดการการกับสิ่งเหล่านั้นได้เพียงลำพัง
กระบวนการช่วยเหลือซึ่งกันและในระบบสังคมของมนุษย์จึงเป็นทางออกที่ดีที่
สามารถเกื้อกูลและขัดเกลาซึ่งกันและกันได้
หากมนุษย์ผู้นั้นสามารถเล็งเห็นว่าการขอความ
ช่วยเหลือ ซึ่งกันและกันเป็นการแบ่งปันประสบการณ์ในการแก้ไขปัญหา
ก็เป็นทางเลือกในการ พัฒนาตนเอง ให้แข็งแกร่งไม่ใช่การแสดงออกถึงความอ่อนแอ
แต่เป็นการเปิดโอกาสให้ตนเองที่จะก้าวต่อไปข้างหน้า
ดังนั้นเมื่อคุณพบว่าคุณมีปัญหา และต้องการความช่วยเหลือ
คุณก็ไม่ได้เป็นคนอับจนหนทางแต่คุณกลับ
กลายเป็นผู้กล้าหาญที่ยอมเผชิญหน้ากับข้อจำกัดของตนเอง
และพร้อมที่จะให้คนอื่นช่วยพยุงคุณขึ้นและเดินฝ่าฟันอุปสรรคนั้นไปด้วยกัน
|
|
|
|
มารับคำปรึกษาแล้ว
จะช่วยได้จริงหรือ? |
TOP |
|
หลายคนที่กังวลว่าการให้คำปรึกษาจะได้ผลหรือไม่เนื่องจากมุมมองของคนส่วนหนึ่ง
ที่ไม่คุ้นเคยกับการให้คำปรึกษา อาจคิดว่ากระบวนการให้คำปรึกษาเป็นการระบายความรู้สึกอัดอั้นออกมาซึ่ง
เป็นกระบวนการช่วยเหลือทางจิตใจแต่ไม่ได้จัดการแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นอย่างจริงจัง
บางคนคิดว่าการให้คำปรึกษา เป็นเพียงขั้นตอนที่เสียเวลาและไร้สาระเป็นแค่การรื้อฟื้นความเจ็บปวดที่ไม่สามารถแก้ไขอะไรได้
หากคุณมีความคิดแบบนี้เราอยากให้คุณมาลองพิจารณาว่าการให้คำปรึกษา
สามารถช่วยคุณได้อย่างแท้จริงแค่ไหน จริงอยู่การให้คำปรึกษาเป็นกระบวนการช่วยเหลือทางจิตใจที่สามารถช่วยให้
คุณได้ระบายถึงความอัดอั้นต้นใจ ความรู้สึกไม่สบายใจ
กังวลใจของคุณออกมา
เพื่อเป็นการช่วยให้คุณรู้สึกดีขึ้นแต่นั่นเป็นเพียงประโยชน์ในเบื้องต้น
เพราะประโยชน์จริงๆ ของการให้คำปรึกษานั้นไม่ได้มุ่งให้เกิดความสบายใจเพียงอย่างเดียว
แต่มุ่งให้เกิดการเยียวยารักษาบาดแผลลึกในจิตใจที่แอบแฝงอยู่
ปรับทัศนคติของตนเองต่อสิ่งต่างๆ อย่างสมเหตุสมผลและตรงตามความเป็นจริงช่วยปรับเปลี่ยนอารมณ์
ให้มั่นคงและเหมาะสมยิ่งขึ้น ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมที่ก่อให้เกิดปัญหา
และจัดการกับสถานการณ์ปัญหาที่เกิดขึ้นได้ในที่สุด
ดังนั้น การที่คุณจะรู้สึกสบายใจเมื่อมาพบผู้ให้
คำปรึกษาก็ย่อมเป็นเรื่องดีเพราะหมายความว่าคุณได้รับประโยชน์เบื้องต้นแล้ว
แต่การที่คุณจะสามารถแก้ไขสถานการณ์ปัญหาได้อย่างเต็มที่นั้น
คุณต้องผ่านกระบวนการปรับเปลี่ยนทางด้าน
พฤติกรรมอารมณ์ ความคิด จนกระทั่งได้รักษาบาดแผลทางจิตใจของคุณซึ่งเป็นแกนของปัญหา
จึงจะเป็นการแก้ไขปัญหาอย่างตรงจุดและนำไปสู่การแก้ไขปัญหาในปัจจุบันได้อย่างแท้จริง
ซึ่ง กว่าจะเกิดผลลัพธ์ในขั้นนั้นได้
ย่อมมีปัจจัยมากมายหลายอย่างที่ผลและเอื้อให้เกิดการแก้ไขในระดับนั้นได้
อย่างไรก็ตาม บางคนเคยมารับคำปรึกษาแล้วในช่วงที่ต้องถูกซักถามเรื่องราว
ต่างๆ ต้องบอกเล่าถึงความรู้สึกของตนเองหรือเรื่องราวปัญหาให้ผู้อื่นฟัง
ทำให้ต้องพูดถึงความเจ็บปวดที่ผ่านมาซึ่งจะทำให้รู้สึกกระตุ้นความเจ็บปวดอีกครั้ง
และเบื่อหน่ายเมื่อต้องพูดซ้ำอีก แต่กระบวนการนี้ก็ยังเป็นสิ่งที่จำเป็นต้องมีอยู่
เพียงแต่จุดประสงค์ของมันไม่ใช่การขุดคุ้ยให้มันเจ็บปวดขึ้นอีก
แต่จุดประสงค์คือจะสามารถทำให้บาดแผลลึกในจิตใจของคุณได้หายเมื่อจบในกระบวนการนี้
บางครั้งปัญหา ดูเหมือนว่าจะไม่สามารถแก้ไขได้
แต่ถ้าคุณเชื่อมั่นและอดทนกับ มัน ยอมที่จะเจ็บปวดอีกครั้งเพื่อที่จะหายดี
คุณจะ พบ ว่า การให้คำปรึกษานี้เป็นสิ่งที่ให้ประโยชน์
และเสริมสร้างพลังให้คุณสามารถแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นกับคุณได้อย่างแท้จริง
|
|
|
|
จะติดต่อสอบถามข้อมูลหรือนัดหมายจะทำอย่างไร? |
TOP |
|
หากคุณอยากจะสอบถามข้อมูลบางประการหรือต้องการทำนัดหมายเพื่อขอใช้บริการในการให้
คำปรึกษาหรือต้องการทราบค่าใช้จ่ายในการใช้บริการก่อน
เพื่อเตรียมตัวหรือตัดสินใจ คุณก็สามารถโทรมาได้ที่
02-275-5725 ในช่วงเวลา 08.00-17.00 น.
หรือ 081-692-298, 081-937-0440การขอทำนัดหมายเพื่อมาพบกับผู้ให้คำปรึกษาจะช่วยให้คุณได้เข้าใจมากขึ้น
ว่าคุณต้องการอะไรจากการมารับบริการและเราสามารถแนะนำการบริการที่เหมาะสมกับคุณ
ให้คุณได้รับความสะดวกสบายใจมากที่สุด
หมายเหตุ : ในกรณีที่คุณเป็นบุคลากรในโครงการ
EAP สามารถติดต่อทำนัดได้ผ่านหมายเลข
Hotline ที่ให้บริการอยู่
|
|
|
|
ถ้าจะเลื่อนนัดหรือยกเลิกนัดจะทำอย่างไร? |
TOP |
|
ในกรณีที่คุณไม่สามารถมาได้ตามนัดหมายท่านสามารถโทรมาเพื่อขอเลื่อนหรือยกเลิกนัดได้
โดยสามารถโทรแจ้งล่วงหน้าก่อน 1 วัน คุณสามารถติดต่อกลับมาเพื่อขอทำนัดหมายใหม่อีก
หรือนัดให้ผู้ให้คำปรึกษาโทรกลับไปหาเพื่อขอทำนัดหมายอีกครั้งก็ได้แล้วแต่คุณจะสะดวก
|
|
|
|
|
|
|